นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

บทความธรรมะ

Saturday, October 8, 2011

นางแบบสาวสวยของเนปาล บวชเป็นภิกษุณี

 
สาวสวยกับบทบาทภิกขุณี
 
 



โค ฮีนัว สิงค์ ชื่ออันไพเราะภาษาเปอร์เซียโบราณอันแปลว่า มงกุฎเพชร เป็นชื่อในวงการของ ทิพปา สิงค์ นักแสดงและนางแบบสาวชั้นแนวหน้าของเนปาล เชื้อสายอินเดีย ที่จู่ๆตัดสินใจ ผันตัวเองมาบวชเป็นภิกขุนี เธอโกนผม ไม่แต่งหน้าและทำสิ่งที่สวนทางกับอาชีพนักแสดงอย่างยิ่ง จนหลายคนตกใจ มีทั้งเสียงยินดี ไม่พอใจ และสนับสนุนในคราวเดียวกัน หลังจากการเป็นนางเอก มิวซิก วีดีโอกว่า 25เรื่องและอาชีพนางแบบกว่า 10 ปี บน catwalks bikini shoots และนิตยสาร เสื้อผ้าแฟชั่น ตอนนี้เธอได้ชื่อใหม่ทางพุทธศาสนาแบบเนปาลว่า Ani Losang Dolma




เธอกล่าวว่าที่เธอเลือกจะบวชเป็นภิกขุณีในศาสนาพุทธก็เพราะศาสนาพุทธนั้นเรียบง่ายและเป็นความจริงของชีวิต และสอนให้เธอได้เป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ชื่อเกิดของเธอคือ ทิพปา ต่อมาเมื่อเข้าวงการดารานางแบบก็กลายเป็น โคฮีนัว ในขณะที่แม่ของเธอชอบเรียกเธอว่า ชนะคยา ส่วนพ่อของเธอให้ nick name ใหม่ กับเธอหลังบวชเป็นภิกขุณีว่า "buddha" ภิกษุณีสาวสวยให้สำภาษณ์อย่างติดตลกเกี่ยวกับชื่อเหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตามชื่อของเธอตามแบบสงฆ์ ซึ่งเป็นตัวตนจริงของเธอก็คือ Ani Losang Dolma



ภาพถ่าย fashion shoots ของภิกขุณีสาวสวยก่อนออกบวช




นอกจากนี้ภิกขุณีคนสวยยังกล่าวเธอไม่เคยรู้สึกตื่นเต้น หรือ ดีใจกับการได้เป็นนักแสดงหรือเวลามีคนมาชมในความสวยของรูปร่างหน้าตาของเธอ เพราะสำหรับเธอมันก็เป็นแค่อาชีพหรือภาระหน้าที่หนักหน่วงเท่านั้น ผู้คนที่เข้ามามองดูเธอแค่เพียงรูปร่างภายนอกไม่ใช่ตัวตนจริงๆของเธอ บางคนชื่นชมในความสวยก็ดีไป ในขณะที่มีอีกหลายๆคนในสังคมอันโบร่ำโบราณของอินเดียและเนปาลที่มองว่านัก แสดงนางแบบเป็นพวกขายเรือนร่างและหยาบคายใส่





ภิกขุณีสาวอดีตนักแสดงยังกล่าวอีกว่าเธอรู้สึกชื่นชมการเป็นภิกขุณีมาตั้งแต่เด็ก เวลาที่เธอพบพวกภิกขุณีที่ Swayambu นางดูมีความสุขและแต่งกายแบบเดิมเสมอ เรียบง่าย และปราศจากเครื่องยึดเหนี่ยวใจให้ตกต่ำ เช่นสังคมของคนธรรมดาที่ต้องนึกถึงภาพลักษณ์และปั้นแต่งอยู่เสมอ ยิ่งเวลาอายุน้อยมีกิเลสอยากได้มากเท่าไร สังเกตได้ว่าความสุขก็น้อยลงเท่านั้น





หลายคนคิดว่าที่เธอบวชภิกขุณีเพื่อสร้างข่าวให้ตัวเองดังยิ่งขึ้น แต่ภิกขุณีสาวก็กล่าวว่าไม่เป็นความจริงเช่นนั้น เพราะเธอไม่ได้บอกสื่อมวลชนเลยตลอดเดือนที่เริ่มบวช แต่คนอื่นก็มาสืบรู้กันเอาเอง ภิกขุณีสาวกล่าวว่าเธอเป็นนางแบบที่ดังอยู่แล้วและไม่จำเป็นต้องสร้างข่าวเทียมเพื่อทำลายชื่อที่มีอยู่แล้วด้วยการโกหก เธอคิดว่าตลอดระยะเวลาเป็นดารานางแบบนี้เธอก็ได้สร้างชื่อมามากเกินพอแล้ว และเธออยากจะละทิ้งมันไปทั้งหมดจริงๆแล้วสื่อมวลชนเป็นสิ่งที่เธอยอมแพ้ เวลาที่ใครสักคนเกิดมาไม่มีใครรู้หรอกว่าตัวเองจะโตขึ้นแล้วเป็นอะไร เราทุกคนซึมซับเรียนรู้สิ่งรอบตัวและก็กลายเป็นเราในอนาคตและแน่นอน ภิกขุณีไม่ใช่คนของสื่อมวลชน



เธอกล่าวว่าความแตกต่างระหว่างตอนเป็นโคฮีนัวกับตอนนี้ก็ตลกดี เจอเหตุการณ์ที่ต่างกัน ตอนเป็นโคฮีนัว ก็มีแฟนคลับผู้ชายโทรมาให้ฉันเลิกกับแฟนของตัวเอง (ดาราด้วยกัน) ในขณะที่แฟนคลับผู้หญิงของแฟนเราก็โทรมาบอกให้เราเลิกกับแฟนเรา  พอมาตอนนี้ เป็นภิกขุณีโกนหัวใส่จีวร มีวันหนึ่งเดินไปบิณฑบาตเจอกลุ่มเด็กผู้ชายกำลังเตะบอล พวกเค้าบังเอิญเตะมาโดนหัวเรา พวกเค้าคิดว่าเราเป็นเณรผู้ชาย ภิกขุณีสาวกล่าวพลางหัวเราะ



ภิกขุณีสาวกล่าวว่าเธอจะไม่มีทางกลับไปเดินบนเส้นทางเดิมของนักแสดงอีกตลอดไป เพราะการเป็นภิกขุณีคือสิ่งที่ฉันเป็นมาตลอด ทั้งหมดนี้คือหนทางของหญิงสาวที่ก้าวสู่การเป็นภิกขุณีในต่างแดน แน่นอนว่ามีทั้งเสียงคัดค้านและต้อนรับ




ผู้สื่อข่าวถามคำถามสุดท้ายจากเธอว่า เธอมีอะไรที่จะบอกเยาวชนรุ่นเด็กบ้าง
ภิกขุณีสาวสวยตอบว่าคนเรานั้นเกิดมาก็ง่ายต่อการเจอสุขและทุกข์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอันแสนสั้น สิ่งที่เป็นอมตะคือวิญญาณของเรา คนที่สามารถอยู่กับทั้งสุขและทุกข์โดยไม่สะทกสะท้านคือผู้ที่ค้นพบสุขอันแท้จริง


แหล่งที่มา  : Blogger.com : zulander


No comments:

Post a Comment